ภูเขาเอเวอเรสต์

ภูเขาเอเวอเรสต์ คือเขาที่สูงที่สุด แต่เอเวอเรสต์คือภูเขาที่สูงที่สุดจริงเหรอ

ภูเขาเอเวอเรสต์ อยู่ลึกเข้าไปในพื้นที่ของ เทือกเขาหิมาลัยไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงและมีเสน่ห์มากที่สุดในบรรดาภูเขาทั้งหมดในโลกของเรา อีกทั้งยังรู้จักกันในนาม “มารดาแห่งโลก” ในภาษาทิเบต เอเวอรเสต์ ได้รับการวัดปรับขนาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 1953 โดย Tenzing Norgay ชาวเชอร์ปาแห่งเนปาลและชาวนิวซีแลนด์ Edmund Hillary และนับตั้งแต่นั้นมามีผู้ปีนสำเร็จประมาณ 4,000 คน นอกจากนี้ภูเขาดังกล่าวยังคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 300 คน นับตั้งแต่มีการบันทึกในปี 1922 ตามรายงานของ The Guardian

นักวิจัยได้ตรวจวัดยอดเขาเอเวอเรสต์หลายครั้งในช่วง2-3ทศวรรษที่ผ่านมา แต่การประเมินล่าสุดที่ประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 นั้นวัดได้อยู่ที่ระดับน้ำทะเล 29,031.69 ฟุต(8,848.86 เมตร)ซึ่งสูงเกือบ 5.5 ไมล์(8.8 กิโลเมตร)เป็นความสูงที่ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมเราจึงใช้ “เหนือระดับน้ำทะเล” ในการพิจารณายอดเขาที่สูงที่สุดในโลก  คำชะโนด 

มาร์ติน ไพรซ์ (Martin Price) ศาสตราจารย์และผู้ก่อตั้งศูนย์การศึกษาภูเขาแห่งมหาวิทยาลัยไฮแลนด์ กล่าวว่า

“ในอดีตหรือแม้กระทั่งตอนนี้ระดับความสูงมักจะวัดจากความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะต้องอ้างอิงถึงระดับน้ำทะเลปานกลางที่จำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรฐานเอาไว้ เพราะระดับน้ำทะเลจะแตกต่างกันในแต่ละส่วนของโลก และกำลังเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

ด้วยเหตุนี้ระดับความสูงจึงถูกวัดโดยสัมพันธ์กับจีออยด์(Geoid)ของโลก(Geoid คือพื้นผิวที่ทับกันแบนสนิทกับผิวเฉลี่ยของมหาสมุทร เป็นรูปทรงสัณฐานของพื้นโลกที่สมจริงมากที่สุด)ที่กำหนดไว้ทางคณิตศาสตร์และตามที่ National Oceanic and Atmospheric Administration กำหนดไว้แบบจำลองระดับน้ำทะเลทั่วโลกที่ใช้วัดระดับความสูงของพื้นผิวที่แม่นยำค่าเฉลี่ยนี้ใช้เพื่อตรวจสอบความสูงของภูเขา ซึ่งเป็นกระบวนการที่บางครั้งต้องใช้เครื่องบินบินไปมาเหนือภูเขาในชุดเส้นคู่ขนานเพื่อวัดว่าแรงโน้มถ่วงดึงลงมาที่จุดสูงสุดมากน้อยเพียงใด หากว่าตาม GIM International หากวัดค่าเหล่านี้ร่วมไปกับการอ่านค่า GPS จะช่วยให้อ่านค่าระดับความสูงได้อย่างแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ

ภูเขาเอเวอเรสต์

มีข้อกังขาอะไรอีกต่อความสูงของเอเวอเรสต์

นักธรณีวิทยาบางคนระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2015 ได้ส่งผลกระทบต่อความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 9,000 คน ในเนปาล และทำให้เกิดหิมะถล่มทับพื้นที่ของเบสแคมป์หลายส่วน มีนักปีนเขาเสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน

นักธรณีวิทยาบางคนบอกว่า แผ่นดินไหวอาจจะทำให้หิมะที่ปกคลุมยอดเขาเอเวอเรสต์ลดจำนวนลง นักวิทยาศาสตร์พบว่า ยอดเขาอื่น ๆ บางแห่งของเทือกเขาหิมาลัย อย่างยอดเขา ลังตังหิมาล (Langtang Himal) ส่วนใหญ่อยู่ทางเหนือของกรุงกาฐมาณฑุ และใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว มีความสูงลดลงประมาณ 1 เมตร หลังจากแผ่นดินไหวครั้งนั้น หลายคนแย้งว่า ยอดเขาเอเวอเรสต์ เช่นเดียวกับยอดเขาอื่น ๆ ของเทือกเขาหิมาลัย อาจจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกที่ยอดเขาตั้งอยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลายครั้ง อาจส่งผลให้ความสูงของยอดเขาลดลง “แผ่นดินไหวปี 2015 เป็นเหตุผลสำคัญเช่นกันที่เราวัดความสูงของยอดเขาใหม่” นายดาคาล กล่าว

ข้อมูลข่าวที่เกี่ยวข้องกับ ภูเขาเอเวอเรสต์

ภูเขาทั้งหมดจะถูกวัดจากระดับน้ำทะเลเพื่อความสะดวกและความสม่ำเสมอเป็นหลัก นั่นหมายความว่าระดับความสูงของเทือกเขาต่างๆอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากวัดจากระดับน้ำทะเล เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหรือโลกร้อนทำให้ระดับน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ถ้าวัดจากฐานถึงจุดสูงสุดล่ะ เอเวอเรสต์จะยังคงอันดับต้นๆของชาร์ตหรือเปล่า?

คำตอบคือ “ไม่” ภูเขาเกียรติยศนั้นจะตกเป็นของ Mauna Kea(เมานาเคอา)ภูเขาไฟที่ไม่มีการใช้งานในฮาวายแม้ว่าจุดสูงสุดจะอยู่ที่ 13,802 ฟุต (4,205 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของความสูงของเอเวอเรสต์ตามข้อมูลของ National Geographic เมานาเคอา ฐานส่วนใหญ่นั้นซ่อนอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล เมื่อวัดจากฐานถึงยอด ภูเขาเมานาเคอาแห่งนี้จะมีความสูง 33,497 ฟุต (10,211 ม.) ตามการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้หัวและไหล่อยู่เหนือยอดเขาเอเวอเรสต์

ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองว่าวัดแบบไหนดีถึงจะเรียกว่าสูงที่สุดในใจคุณแต่ไม่ว่าคุณจะเลือกภูเขาใดก็ตาม ทั้งหมดไม่สามารถสู้ได้เมื่อเทียบกับ Olympus Mons ของดาวอังคาร ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะที่เราเคยรู้จัก มันมีความสูงประมาณ 16 ไมล์ (25 กม.) ตามข้อมูลของนาซา ซึ่งสูงกว่าเอเวอเรสต์ 3 เท่าและมีเส้นผ่าศูนย์กลางฐาน 374 ไมล์ (601.9กม.) ซึ่งเป็นระยะทางใกล้เคียงกันระหว่างซานฟรานซิสโกไปลอสแองเจเลส (383.1 ไมล์ /616.5 กม.)

เครดิต : themysteriousth.com

ติดตามข่าวสาร : เรื่องลี้ลับ เรื่องหลอน